0
0
เทียบคำให้การ “เด็ก 17 ปี” กับ “สมรักษ์” ไม่ตรงกันหลายประเด็น
“สมรักษ์” ลั่นตามสบาย หลังครอบครัวเด็ก 17 ร้อง “กัน จอมพลัง”ให้ช่วย
กลายเป็นประเด็นฉาว เมื่ออดีตนักชกชื่อดัง “สมรักษ์ คำสิงห์” ถูกสาวอายุ 17 ปีแจ้งความอ้างพาเข้าโรงแรมและลวนลามทำอนาจาร ซึ่งเจ้าตัวปฏิเสธเรื่องดังกล่าวและยืนยันว่าไม่ได้มีการข่มขืน รวมทั้งได้เปิดเผยว่าหย่ากับภรรยามา 2 เดือนแล้ว ทำให้ถูกวิจารณ์อย่างดุเดือด และยังลุกลามไปถึงโซเซียลส่วนตัวของลูกสาว “เบสท์-รักษ์วนีย์ คำสิงห์” อีกด้วย
โดยวันนี้ (12 ธ.ค.66) “เบสท์” ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เจ้าตัวได้เผยมาว่า
กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น?
“(ไหว้) ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจหนูค่ะ ต้องรอดูว่าคดี ทนายจะจัดการยังไง ต้องรอตามขั้นตอนกฎหมาย (คุยกันยังไงบ้าง?) หนูรู้เท่าที่พ่อเล่าตรงกับข่าว เล่าให้หนูฟังเหมือนกับที่ให้ข่าวค่ะ หนูก็ทราบเหมือนกับทุกคน หนูถามทนายก็บอกว่าเดี๋ยวดำเนินคดีตามกฎหมาย ตรงนี้ก็ต้องให้ทนายกับพ่อจัดการ หนูเองก็ไม่ได้คุยกับพ่อ หนูรู้ว่าพ่ออยู่ขอนแก่น แต่ก็ไม่รู้ว่าเขารู้สึกอะไรยังไง แต่ว่ามันก็ไม่ได้มีใครรู้สึกดีอยู่แล้ว ทุกฝ่าย ทุกคนก็เสียความรู้สึกหมดค่ะ รวมถึงผู้เสียหายด้วย หนูอยากให้ทุกคนคอมเมนต์กันเบาๆ ให้กำลังใจทุกฝ่ายดีกว่าค่ะ ถ้าถามถึงแม่กับน้อง คือตอนแรกเราก็ตกใจเหมือนกัน เราก็ไม่รู้ว่าจะเกิดข่าวนี้ขึ้น แต่พอเรามาคุยกันในครอบครัว เบสท์ แม่ แล้วก็น้อง เราก็ให้กำลังใจกัน 3 คน ก็ต้องเดินหน้ากันต่อไป”
หลายคนตกใจเรื่องที่ครอบครัวไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว (พ่อแม่หย่า)?
“อันนี้หนูรู้อยู่แล้วค่ะ เพราะตอนที่พ่อกับแม่หย่ากันก็มาบอก ซึ่งเราก็โอเค เราแล้วแต่เขาอยู่แล้ว เป็นเรื่องของสามี-ภรรยา ถ้าเขาสบายใจเราก็โอเคค่ะ แต่ที่เบสท์ไม่ได้ออกมาพูดเพราะรู้สึกว่าเขาหย่ากัน แต่ก็ยังอยู่บ้านเบสท์ พ่ออยู่คนละห้องกับแม่ พ่อยังพักที่บ้าน ยังใช้รถที่บ้าน ถ้าออกมาพูดก็รู้สึกว่ายังไม่ใช่ คือเบสท์กับน้องก็โตแล้ว เข้าใจในเรื่องของความรัก ก็แล้วแต่เขาตัดสินใจค่ะ การหย่ากันก็น่าอาจจะจะเป็นหลายๆ เรื่องรวมกัน เขาอยู่กันมานาน การที่หย่ากันก็ต้องมีหลายๆ เรื่อง แต่เบสท์ไม่ได้ถามว่าเพราะอะไร เพราะเบสท์เอาที่แม่สบายใจค่ะ”
ชีวิตคู่ “สมรักษ์ คำสิงห์” กับภรรยา ฝ่าอุปสรรคนับไม่ถ้วน ย้อนวีรกรรมเจ้าชู้-เคยถูกจ้างหย่า 2 ล้าน
คุณแม่บอกว่าเป็นห่วงความรู้สึกเรากับน้อง?
“ห่วงแม่ดีกว่าค่ะ (เสียงสั่น) เราก็ให้กำลังใจกัน 3 คน”
ดึงกำลังใจจากตรงไหนบ้าง ที่ต้องมาฮีลตัวเอง?
“จากทุกคนค่ะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ (ไหว้) (คนมาให้กำลังใจเยอะวันนี้?) ขอบคุณแฟนคลับหนู แล้วก็ทุกคนที่ให้กำลังใจหนู หนูรับรู้แล้วมันก็ฮีลใจได้จริงๆ ขอบคุณค่ะ”
ในส่วนของเราเอง ก็มีโดนคอมเมนต์ลบบ้าง?
“มันก็ปกติอยู่แล้ว เราโดนดราม่ามาเยอะแล้ว หนูโฟกัสคนที่ให้กำลังใจดีกว่า ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ ส่วนคนที่มาว่าหรืออะไร หนูขอโทษด้วย ขอโทษแทนคุณพ่อด้วยค่ะ (ไหว้ น้ำตาคลอ)”
พ่อมีแพลนกลับกรุงเทพฯ เมื่อไหร่?
“น่าจะต้องได้กลับอยู่แล้วค่ะ เหมือนมีเรื่องอื่นด้วยที่ต้องเคลียร์ เพราเขาก็มีหลายๆ อย่าง เพราะว่าทนายความก็อยู่กรุงเทพฯ ค่ะ เขาต้องกลับมาคุยกับทนายที่กรุงเทพฯ อยู่แล้ว”
ที่พ่อบอกว่า ถ้าเสร็จเรื่องนี้แล้วจะไปอยู่ฝรั่งเศส เขาได้คุยกับเราไหม?
“ส่วนตัวหนูบอกพ่อไปว่า ถ้าพ่อผิดก็ต้องยอมรับผิด แต่ถ้าไม่ผิดแล้วอยากจะไปพักผ่อนที่ฝรั่งเศส หนูก็จะออกค่าเครื่องบิน ค่าที่อยู่ให้ แต่ถ้าผลออกมาแล้วผล ก็ต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่ทำ ผิดก็คือผิด”
ยังดูพ่อเหมือนเดิม?
“เราก็รักพ่อแม่ค่ะ เขาเป็นพ่อเรามันเกิดขึ้นแล้ว เบสท์เป็นคนที่ว่าถ้าผิดก็คือผิด ถุกก็คือถูก เพราะฉะนั้นเบสท์ให้กำลังใจพ่อนะคะ แต่ถ้าพ่อผิดจริงๆ ก็ต้องรับผิด เราเองก็ไม่รู้ว่าเหตุการณ์เป็นยังไง เราไม่มีทางรู้ได้ ก็ต้องให้กระบวนการทางกฎหมายพิสูจน์ หนูรักพ่อแม่ ไม่ว่ายังไง ผลออกมาเป็นยังไง หนูก็ซัพพอร์ตเท่าที่ทำได้อยู่แล้วค่ะ ส่วนไปฝรั่งเสศ เขาย้ายไปอยู่ไมได้อยู่แล้วค่ะ มันเรื่องของวีซ่า ก็ต้องรอดูต่อไป หนูเองยังไม่อยากให้พ่อไป อยากให้เผชิญหน้าก่อนกับสิ่งที่เกิดขึ้น ปัญหาเกิดขึ้นแล้วก็ต้องเผชิญ”
ให้กำลังใจแม่ยังไงบ้าง?
“เราไม่ได้พูดกันมาก แต่มองตาก็รู้แล้ว”คำพูดจาก เว็บสล็อตแท้
หนักเกินไปสำหรับเราไหม เป็นหัวหน้าครอบครัว แล้วก็ต้องมาเจอเรื่องเกินความคาดหมายอีก?
“มันก็หนัก แต่ว่าไม่เป็นไรค่ะ เราก็เลือกไม่ได้ มันเกิดขึ้นแล้ว เราเดินหน้าดีกว่า แต่ว่าการที่เป็นหน้าครอบครัว รับผิดชอบครอบครัว มันเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว แต่ปัญหาที่เข้ามาอาจจะรู้สึกไม่ดีตรงที่ว่าเราไม่ได้ทำ แต่คนก็มีด่าเราบ้าง มันเกิดขึ้นแล้ว หนุก็ต้องเผชิญหน้ากับมัน”
น้อยใจไหมเขาไม่ฟังเราพูด แต่ด่าไปก่อน?
“คือหนูโดนมาตลอด มันก็ห้ามไม่ได้ 1 พันคน ก็ 1 พันความคิดค่ะ มันก็แล้วแต่คนจะคอมเมนต์ มันห้ามไม่ได้ แต่สำหรับใครที่ให้กำลังใจ ก็ขอบคุณมากๆ หนูรับรู้ค่ะ”
ตัวเราเอง เชื่อพ่อแค่ไหน?
“หนูไม่เชื่อใครเลย มันพิสูจน์ไม่ได้ ต้องรอดู คือเราไม่รู้ เราไม่ได้อยู่ในห้องนั้น เราไม่ได้อยู่ในคืนนั้น หมายถึงว่าจะมีใครพูดความจริงร้อยเปอร์เซ็นต์ไหม เราไม่มีทางรู้ค่ะ แต่หนูก็ถามทนาย ว่าจะพิสูจน์ได้ยังไง ก็ต้องตามขั้นตอน มันก็มีวิธีพิสูจน์อยู่แล้วตามกฎหมาย อันนี้ก็ต้องให้ทนายดูแล แต่ส่วนตัวถามว่าหนูเชื่อใครไหม ถ้าตอบตรงๆ คือหนูไม่ได้เชื่อใครเลย รอดูดีกว่า”
ณ ตอนนี้คุณพ่อเขาพยายามติดต่อมาหาเรา หรือน้อง หรือคุณแม่บ้างไหม?
“ไม่ค่ะ เขาน่าจะคุยกันโบ๊ทซะส่วนใหญ่ เพราะว่าเขาสนิทกับโบ๊ท แต่หนูจะสนิทกับแม่ค่ะ”
เราห่วงอะไรพ่อบ้างตอนนี้?
“ก็เหมือนที่เบสท์บอกตามรายการทุกรายการที่เคยออก ก็คืออยากให้ดูแลตัวเองดีๆ ค่ะ แล้วก็รอบคอบ แต่ว่าทั้งหมดทั้งมวลที่เบสท์พูด ไม่ได้ว่าพ่อนะคะ เบสท์ก็รักพ่อเหมือนเดิม ถ้าอะไรที่มันผิด มันก็ต้องพูดไปตามความผิด อะไรที่ควรจะตักเตือน มันก็ก็ต้องเตือน แต่ว่าเบสท์ก็รักพ่อเหมือนเดิม (เสียงสั่น) รักแม่เหมือนเดิม คือเบสท์ก็ลำบากใจเหมือนกันที่ต้องออกมาพูด เพราะเดี๋ยวคนจะเข้าใจว่าเราไม่รักพ่อ แต่คือเบสท์รักครอบครัวเหมือนเดิม แต่ในเรื่องนี้ถ้าผิดก็ว่าไปตามผิดค่ะ”
เป็นสิ่งที่ครอบครัวเคยพูดกันอยู่แล้ว เจอปัญหาอะไรก็คุยกันอย่างนี้มาตลอด สำหรับคุณพ่อกับเรา?
“ใช่ค่ะ คือทุกปัญหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหนี้ต่างๆ อะไรที่ผ่านมาก็มีคุย แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องเซนซิทีฟ เบสท์ก็ไม่ได้ถามหรือคุยอะไรมากมาย”
วันนี้ได้ออกมาพูดแล้วรู้สึกยังไงบ้าง?
“หนูว่าเดี๋ยวนี้ชาวเน็ตแยกแยะได้และเก่งค่ะ คือถ้าเราทำผิดจริงๆ ชาวเน็ตก็ไม่ยอมอยู่แล้วแหละ แต่ถ้าเราทำถูก ชาวเน็ตจากที่เขาด่า เขาก็จะกลับมาว่าอ๋อ ความจริงเป็นแบบนี้ คือหนูรู้สึกว่าให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ เดี๋ยวทุกอย่างมันก็ใช้เวลาพิสูจน์เอง ว่าเรื่องราวเป็นยังไง แต่ถามว่าพ่อหนูมีความผิดไหม ตรงนี้มันมีความผิดอยู่แล้ว หนูขอโทษแทนคุณพ่อด้วยค่ะ (ยกมือไหว้)”
สัมภาษณ์แล้วจะกลับไปคุยกับพ่อโดนตรงไหม?
“คุยกับแม่ดีกว่าค่ะ (หัวเราะ) ผู้ชายก็คุยกับผู้ชายไป เราเป็นผู้หญิงก็คุยกับแม่ดีกว่า หัวอกผู้หญิงเหมือนกัน หนูเข้าใจค่ะ (ทำไมถึงไม่อยากคุยกับพ่อ?) หนูไม่ได้ไม่อยากคุย แต่ว่าคุยไปแล้ว สิ่งที่หนูได้รับมันเหมือนกับในข่าว หนูเลยรู้สึกว่าเราดูในข่าวก็ได้ค่ะ แต่ในเรื่องของกำลังใจ คือเบสท์ให้กำลังใจแม่เบสท์ดีกว่า เลยไม่ได้ให้กำลังใจพ่อ เบสท์ก็บอกพ่อว่าถ้าในเมื่อพ่อทำผิด ก็ว่าไปตามผิด ไม่ว่าจะผิดมากผิดน้อย แต่ผิดเราก็ต้องยอมรับ แต่ในส่วนของแม่ เบสท์ให้กำลังใจแม่มากกว่าอยู่แล้ว”
แม่เป็นยังไงบ้าง?
“ก็โอเคค่ะ มันไม่มีใครรู้สึกดีหรอก แม่ก็คงไม่ได้รู้สึกดีค่ะ แต่ว่าเราก็ให้กำลังใจกัน”
เราโอเคไหมกับสิ่งที่ต้องเจอในวันนี้?
“มันไม่มีใครโอเคหรอก แต่ว่าก็ขอบคุณทุกกำลังใจ (เสียงสั่น) (รู้สึกยังไงที่มีคนรักและเชื่อมั่นในสิ่งที่เราพูด?) คือเรื่องนี้มันไม่ได้เป็นเรื่องของเบสท์เนอะ ที่เบสท์พูดไป อยากให้ทุกคนไม่ต้องเชื่อเบสท์ก็ได้ แต่ว่ารอดูตามกระบวนการของกฎหมาย แต่ในส่วนของเบสท์ คือเบสท์ก็รักพ่อกับแม่เหมือนเดิม แล้วก็ขอบคุณกำลังใจมากกว่า เบสท์รับรู้ว่าทุกคนให้กำลังใจเบสท์ ขอบคุณมากๆ ค่ะ (ยกมือไหว้ น้ำตาคลอ)”
หลุดแชทเด็ก 17 ปี เรียกเพื่อนมารับหลังรู้ตัวถูก “สมรักษ์” พามาโรงแรม
กางปฏิทินจ่ายเงินเดือนข้าราชการ ค่าจ้างลูกจ้างประจำ บำนาญ ปี 2566
กู้ภัยระดมเจ้าหน้าที่ค้นหาผู้สูญหายในทะเลหาดจอมเทียน ยังไม่ชัดมีกี่คน
